
เมสซี่ ปะทะเดือด ฟาน กัล หลังฟ้าขาวดวลโทษคว่ำอัศวินสีส้ม
ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ 7 บัลลงดอร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าปะทะเดือดกับหลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมเนเธอร์แลนด์ หลังเกมฟุตบอลโลก รอบก่องรองชนะเลิศ เมื่อคืนที่่ผ่านมา
ลิโอเนล เมสซี่ ดูเหมือนจะเผชิญหน้าอย่างดุเดือดหลายครั้งกับ หลุยส์ ฟาน กัล หลังจากที่อาร์เจนติน่าเอาชนะเนเธอร์แลนด์ในฟุตบอลโลกรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนที่ผ่านมา (ศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565) เกมนี้ทัพอัศวินสีส้มไล่ตามตีเสมอขุนพลฟ้าขาว 2-2 ได้สำเร็จทั้งๆ ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน 2-0 แต่ในที่สุดพวกเขาก็พ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษในเกมสุดเดือดที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกันหลายครั้ง และผู้ตัดสิน อันโตนิโอ มาเตอู ลาฮอซ แจกใบเหลืองปลิวว่อนทำลายสถิติถึง 17 ใบแก่ผู้เล่นและสตาฟฟ์
แม้กระทั่งหลังจากสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายก็ยังเดือดไม่จบ เมื่อเดนเซล ดุมฟรีส์ กองหลังของฮอลแลนด์เจอใบเหลืองที่สองและกลายเป็นใบแดง แต่กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าอย่างเมสซี่เองก็มีส่วนอย่างมากในเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้เมื่อเขาไปปะทะคารมกับผู้จัดการทีมฮอลแลนด์ ฟาน กัล บริเวณข้างสนามโดยที่สตาฟฟ์โค้ช รวมถึง เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ต้องแยกทั้งสองคนออกจากกัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพูดอะไร แม้ว่าบางคนจะตั้งทฤษฎีว่า เมสซี่ ตำหนิ ฟาน กัล ในเรื่องความคิดเห็นของผู้จัดการทีมฮอลแลนด์ที่ให้สัมภาษณ์ก่อนเกม โดยซุป’ตาร์ 7 บัลลงดอร์บอกกับ ฟาน กัล และทีมงานของเขาไปว่า “คุณพูดมากเกินไป”
ด้านผู้รักษาประตูของทัพฟ้าขาวอยา่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ กล่าวว่า “ผมได้ยิน ฟาน กัล พูดว่าในการดวลจุดโทษพวกเขาได้เปรียบ หรือถ้าเราไปถึงดวลจุดโทษ พวกเขาจะชนะ ผมคิดว่าเขาต้องหุบปากของเขาซะบ้าง” ในเวลาต่อมาในอุโมงค์ เมสซี่กำลังให้สัมภาษณ์สดทางทีวี TyC Sports ของอาร์เจนติน่า และปรากฏว่าเจ้าตัวดูเหมือนจะจ้องไปที่บุคคลปริศนารายนึงซึ่งตามรายงานก็คือฟาน กัล นั่นเอง นักเตะวัย 35 ปีถามอย่างฉุนเฉียวว่า “คุณมองอะไรอยู่? มองต่อสิไอ้โง่” จากนั้นในระหว่างการสัมภาษณ์ เขากล่าวเสริมว่า: “ฟาน กัล บอกว่าพวกเขา (ฮอลแลนด์) เล่นฟุตบอลที่ดี แต่สิ่งที่เขาทำคือเอาคนตัวสูงลงมาและโยนบอลยาว”
เมสซี่ยังรู้สึกไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกม และยืนยันว่ากรรมการรายนี้ไม่ควรรับผิดชอบเกมนัดสำคัญเช่นนี้อีก “แมตช์นี้ไม่ควรจบลงแบบนั้น ผมไม่ต้องการพูดถึงผู้ตัดสินเพราะพวกเขาจะลงโทษคุณ แต่ผู้คนต่างจับตามองสิ่งที่เกิดขึ้น” เขากล่าวกับนักข่าว “เรามีความกลัวก่อนเกมเพราะเรารู้ว่าเขาเป็นยังไง และผมคิดว่าฟีฟ่าต้องทบทวนเรื่องนี้ คุณไม่สามารถใช้ผู้ตัดสินอย่างเขาในเกมเหล่านี้ได้”
ตอนนี้อาร์เจนติน่าผ่านเข้าไปในรอบสี่ทีมสุดท้ายแล้ว รักษาความหวังในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 พวกเขาจะเผชิญหน้ากับโครเอเชียในวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 แน่นอนว่าทัพฟ้าขาวตั้งเป้าเข้าถึงชิงชนะเลิศ แต่พวกเขาจะไม่มีมาร์กอส อกุนญา และกอนซาโล มอนติเอล เนื่องจากทั้งสองติดโทษแบนหลังจากได้ใบเหลือง 2 ใบในเกมกับฮอลแลนด์ ข่าวกีฬาเพิ่มเติม>>> “กาตาร์” สร้าง 3 สถิติแย่กว่า “แอฟริกาใต้” หลังการันตี 100% ตกรอบในฟุตบอลโลก 2022